สวัสดี

สวัสดี

วันจันทร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2558

การบันทึกอนุทินครั้งที่ 6



บันทึกอนุทินครั้งที่6
วิชา การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวม
วันอังคาร บ่าย  พ.ศ.2558
 103 ห้องเรียน 443
เวลาเรียน 14.10-16.40 น.



วันนี้อาจารย์สอนเรื่อง การสอนเด็กพิเศษและเด็กปกติ



การฝึกเพิ่มเติม

-อบรมระยะสั้น , สัมนา
-สื่อต่างๆ เช่น หนังสือพิมพ์  

การเข้าใจภาวะปกติ

-เด็กจะคล้ายคลึงกันมากกว่าแตกต่าง

-ครูต้องเรียนรู้,มีปฏิสัมพันธ์กับเด้กปกติแและเด็กพิเศษ

-รู้จักเด็กแต่ละคน

-มองเด็กให้เป็น "เด็ก"


การแยกเด็กที่มีพัฒนาการช้า

-การเข้าใจพัฒนาการเด็ก จะช่วยให้ครูสามารถมองเห็นความแตก

ต่างของเด็กแต่ละคนได้ง่าย


ความพร้อมของเด็ก

-วุฒิภาวะ

-แรงจูงใจของเด็ก

-โอกาส


การสอนโดยบังเอิญ

-ให้เด็กเป็นฝ่ายเริ่ม

-เด็กเข้าหาครูมากเท่าไหร่ยิ่งมีโอกาสในการสอนมากขึ้นเท่านั้น

-ครูต้องพร้อมที่จะพบเด็ก

-ครูต้องมีความสนใจเด็ก

-ครูต้องมีความรู้สึกที่ดีต่อเด็ก

อุปกรณ์

-มีลักษณะง่ายๆ

-ใช้ประโยชน์ได้หลายทาง

-เด็กพิเศษได้เรียนรู้จากการสังเกตและเลียนแบบเด็กปกติ



ตารางประจำวัน

-เด็กพิเศษไม่สามารถยอมรับการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ทำอยู่เป็นประจำ

-กิจกรรมต้องเรียงลำดับเป็นขั้นตอนและทำนายได้

-เด็กจะรู้สึกปลอดภัยและมั่นใจ

-การสลับกิจกรรมที่อยู่เงียบๆกับกิจกรรมที่เคลื่อนไหวมากๆ


-คำนึงถึงความพอเหมาะของเวลา
  


ทัศนคติของครู


-การแก้แผนการสอนให้เหมาะสมกับสถานการณ์

-ยอมรับขอบเขตความสามารถของเด็ก

-ครูต้องตอบสนองต่อเป้าหมายที่สำคัญที่สุดสำหรับเด้กแต่ละคน


การใช้สหวิทยาการ

-ใจกว้างต่อคำแนะนำของบุคคลในอาชีพอื่นๆ
-สร้างความสัมพันธ์ระหว่างการบำบัดกับกิจกรรมในห้องเรียน

การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและการเรียนรู้

เด็กทุกคนสอนได้
-เด็กเรียนไม่ได้เพราะไร้ความสามารถ
-เด็กเรียนไม่ได้เพราะขาดโอกาส

เทคนิคการให้แรงเสริม
  • แรงเสริมทางสังคมจากผู้ใหญ่

-ความสนใจของผู้ใหญ่ที่มีต่อเด็ก
-มีแนวโน้มจะเพิ่มพฤติกรรมที่ดีของเด็ก
-หากผู้ใหญ่ไม่สนใจพฤติกรรมที่ดีนั้นๆ ก็จะลดลงและหายไป

วิธีการแสดงออกถึงแรงจากผู้ใหญ่

-การตอบสนองด้วยวาจา
-การยืนหรือนั่งใกล้เด็ก
-พยักหน้ารับ ยิ้ม ฟัง
-สัมผัสทางกาย
-ให้ความช่วยเหลือ, ร่วมกิจกรรมกับเด็ก

หลักการใช้แรงเสริมในเด็กปฐมวัย

-ครูต้องให้แรงเสริมทันทีที่เด้กมีพฤติกรรมอันพึงประสงค์
-ครูต้องละเว้นความสนใจทันทีและทุกครั้งที่เด็กแสดงพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์
-ครูควรให้ความสนใจเด็กนานเท่าที่เด็กมีพฤติกรรมที่พึงประสงค์

การแนะนำหรือบอกบท(Prompting)

-การย่อยงาน
-ลำดับความยากง่ายของงาน
-ลำดับงานเป็นการเสริมแรงเพื่อให้เด็กค่อยๆก้าวไปสู่ความสำเร็จ
-การบอกบทจะค่อยๆน้อยลงตามลำดับ

ขั้นตอนการให้แรงเสริม

-สังเกตและกำหนดจุดมุ่งหมาย
-วิเคราะห์งาน กำหนดจุดมุ่งหมายย่อยๆในงานแต่ละชิ้น
-สอนจากง่ายไปยาก
-ให้แรงเสริมทันทีเมื่อเด็กทำได้หรือเมื่อเด็กพยายามทำอย่างเหมาะสม
-ลดการบอกบท เมื่อเด็กเรียนรู้ที่จะก้าวไปในขั้นต่อไป
-ให้แรงเสริมเฉพาะพฤติกรรมที่ใกล้เคียงกับเป้าหมายมากที่สุด
-ทีละขั้น ไม่เร่งรัด ''ยิ่งขั้นเล็กเท่าไหรื ยิ่งดีเท่านั้น''
-ไม่ดุหรือตี


การกำหนดเวลา

-จำนวนและความถี่ของแรงเสริมที่ให้กับพฤติกรรมการเรียนรู้ของเด็กต้องมีความเหมาะสม
ความต่อเนื่อง

-พฤติกรรมทุกๆอย่างในชีวิตประจำวันต่อเนื่องกันระหว่างพฤติกรรมย่อยๆ หลายๆอย่างรวมกัน เช่น การเข้าห้องน้ำ

-สอนแบบก้าวไปข้างหน้าหรือย้อนมาจากข้างหลัง


เด็กตักซุป

-การจับช้อน
-การตัก
-การระวังไม่ให้น้ำหกก่อนจะเข้าปาก
-การเอาช้อนและซุปเข้าปากแทนที่จะทำให้หกรดคาง
-การเอาซุปออกจากช้อนเข้าสู่ปาก

การลดและหยุดแรงเสริม

-ครูจะงดแรงเสริมกับเด็กที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
-ทำอย่างอื่นและไม่สนใจเด็ก
-เอาอุปกรณ์หรือของเล่นออกไปจากเด็ก
-เอาเด็กออกจากของเล่น

                                      


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น